ประวัติ คริสเตียน พูลิซิช ปีกซ้ายจาก ดอร์ทมุนด์

0
2578

ประวัติ คริสเตียน พูลิซิช ปีกซ้ายดาวรุ่ง จาก เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แห่ง บุนเดสลีกา เยอรมัน สู่ถิ่น สแตมป์ฟอร์ดบริดจ์

ประวัติ คริสเตียน พูลิซิช เกิดวันที่ 18 กันยายน 1998 อายุ 21 ปี เกิดที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา ส่วนสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว น้ำหนัก 70 กิโลกรัม เล่นในตำแหน่ง ปีกซ้าย ใส่เสื้อเบอร์ 22

พูลิซิช เกิดที่เฮอร์ชี่ย์, เพนซิลวาเนีย เขาเป็นลูกชายของสองอดีตนักฟุตบอล ใช้เวลาในช่วงที่เป็นเด็กอยู่ที่อังกฤษ เคยเล่นอยู่กับทีมแบร็คลีย์ ทาวน์ ในนอร์ทแฮมป์ตันเชียร์ ก่อนจะกลับไปสหรัฐฯ

จากการที่มีหลายทีมในยุโรปจับตามองผลงานของเขาอยู่ พูลิซิช เซ็นสัญญากับดอร์ทมุนด์ในวัย 16 ปี ในช่วงต้นปี 2015 เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านอะคาเดมี่ของทีม และได้เดบิวต์กับทีมชุดใหญ่ในปีต่อมา

ฤดูกาลแรกของเขาในบุนเดสลีก้า ลงเล่นไป 9 นัด ยิง 2 ประตู และเขากลายเป็นนักเตะตัวจริงภายใต้การคุมทีมของโทมัส ทุชเช่ลในฤดูกาล 2016/17 ลงเล่นเพิ่มอีกมากกว่า 60 นัดในช่วง 2 ปีต่อมา การบาดเจ็บเล็กน้อยแต่หลายครั้งทำให้พูลิซิชไม่ค่อยได้ลงเล่นนักในฤดูกาลน 2018/19 แต่เขาก็ยังคงลงสนามไปรวม 18 นัด ยิง 3 ประตู รวมประตูชัยในแชมป์เปี้ยนส์ ลีกที่พบกับคลับ บรู๊ก เมื่อเดือนธันวาคมด้วย

คริสเตียน พูลิซิช

พูลิซิช ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจนได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอเมริกาในปี 2017 และลงเล่นให้ทีมชาติในรายการ CONCACAF Gold Cup ช่วงซัมเมอร์ 2019 ก่อนจะมาร่วมทีมเชลซี สหรัฐฯ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศแต่พ่ายเม็กซิโก พูลิซิชได้รับเลือกให้เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ด้วย

พูลิซิช เข้าร่วมเป็นนักเตะเชลซีช่วงต้นฤดูกาล 2019/20 โดยบรรลุข้อตกลงครั้งแรกในเดือนมกราคม 2019 ก่อนจะถูกยืมต่อไปเล่นให้ต้นสังกัดเดิมคือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์จนจบฤดูกาล

ปีกซ้ายวัย 21 ปี เซ็นสัญญากับเชลซีเป็นระยะเวลา 5 ปีครึ่ง และกลายเป็นนักเตะอเมริกันคนที่สามในประวัติศาสตร์ของเรา ต่อจากแม็ตต์ มิอัซก้า และรอย เวเกิร์ล พูลิซิชเป็นนักเตะปีกข้างโดยธรรมชาติ มีความรวดเร็ว ว่องไว และใช้เท้าได้ทั้งสองข้าง และยังสามารถเล่นทางด้านซ้ายหรือหลังสไตรค์เกอร์ได้อีกด้วย

พูลิซิช ลงเป็นตัวจริงในเกมลีกสามนัดต่อมา หลังช่วงเบรกทีมชาติเดือนตุลาคมเขากลับมาลงเล่นและจ่ายบอลให้ทีมในเกมที่ชนะนิวคาสเซิลและอาแย็กซ์ ก่อนจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมพบเบิร์นลี่ย์ในเกมลีกนัดต่อมา ทำแฮตทริกสมบูรณ์แบบได้สำเร็จด้วย

เรียบเรียงโดย   ข่าวบอล

ขอขอบคุณ  ข่าวเชลซี

Leave A Reply

Please enter your comment!
Please enter your name here