แคลลัม ฮัดสัน-โอดอย เผยถึงการเล่นในนัดประเดิมสนามให้ โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชคนใหม่ในเกมเสมอ วูล์ฟฯ 0-0 ว่าแม้ไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาถนัดอย่างวิงแบ็ค แต่ก็พร้อมรับโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ หวังซื้อใจโค้ชดอยช์และเพื่อฝากตัวเองสู่ฐานะขาประจำ
‘สิงห์บลู’ เล่นในระบบ 3-4-2-1 ในเกมเปิดตัวโค้ชคนใหม่ โอดอย ไปยืนตำแหน่งวิงแบ็คขวา นับเป็นบทบาทใหม่ของเขา เนื่องจากที่ผ่านมาเขาเล่นแค่กองหน้าริมเส้น ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าท้าทายดีเมื่อต้องรับผิดชอบเกมรับ-เกมรุก
“ผมโดนจับให้มาเล่นตำแหน่งวิงแบ็คในเกมนั้น และผมย้ำกับตัวเองว่าเมื่อขึ้นไปบุกแล้วก็ต้องวิ่งกลับลงมาเพื่อรักษาตำแหน่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมพยายามอย่างสุดความสามารถ และพยายามจับบอลให้น้อยจังหวะแล้วรีบคายลูก” โอดอย ให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ทางการ
“มันเป็นอะไรที่ใหม่มากนะสำหรับผม การซ้อมในวันอังคารนั่นนับเป็นครั้งแรกที่ผมถูกส่งไปยืนตำแหน่งนั้น ผมก็พบว่าพอเล่นได้ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เป็นเรื่องดีที่ได้ลองเล่นตำแหน่งอื่นบ้าง ไม่ว่าโค้ชจะขอร้องให้ยืนตรงไหนผมก็พร้อมทำให้สุดฝีเท้า”
“โค้ชต้องการให้ผมเปิดบอลขึ้นหน้าพยายามรักษาตำแหน่งตัวเองในฐานะฟูลแบ็คให้ได้ และเน้นการป้องกันให้มากสุดเท่าที่จะทำได้”
“เพราะเขารู้ว่าผู้เล่นแต่ละคนในเกมบุกทีมเราจะมีอิสระกันอยู่แล้ว มีความสามารถในการทำประตู โค้ชจึงให้ผมเปิดบอลยาวข้ามแดนไปแล้วค่อยดันขึ้นสูง หาทางยิงหรือแอสซิสต์ให้ได้หากมีโอกาส แกบอกผมว่าให้วิ่งขึ้น-วิ่งลงริมเส้น สาดลูกขึ้นไปเลยแล้วยืนให้สูง ถ่างให้กว้างสุด”
“ผมก็พยายามวิ่งสอดขึ้นไปข้างหน้า เคลื่อนที่ด้วยแบบที่แตกต่างเพื่อเข้าไปรับบอล ส่วนโค้ชเขาอยากให้ผมวิ่งตัดหลังหรือหาทางจ่ายบอลสวยๆ เจาะเกมของคู่แข่งและป้องกันหลากหลายแทนในการต้องเอาชนะคู่แข่งทุกครั้งที่เผชิญหน้า”
เป็นระบบการเล่นที่ย้อนไปสู่ยุค แฟร้งค์ แลมพาร์ด ช่วงแรก หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่เล่นแบบสามปราการหลังตัวกลางแล้วขึ้นเกมจากวิงแบ็ค ต่างเพียง ทูเคิ่ล ให้ตัวสดๆ ยืนริมเส้นเพราะต้องวิ่งขึ้น-ลง 90 นาที ลุ้นปลดสกอร์แรกใส่ เบิร์นลี่ย์ เสาร์นี้ ( 30 ม.ค.)
ติดตามทุกเรื่องราว ข่าวใหม่ๆได้ที่ >>>chelsea24hr<<<